วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Take Care N"แนน


1. ใช้โฟมล้างหน้าวันละสองครั้ง เช้า-เย็น
  • ใช้น้ำอุ่นล้างก่อน
  • ตามด้วยโฟมถูบนฝ่ามือ 
  • ล้างหน้าเบาๆ 
  • ล้างโฟมออกด้วยน้ำเย็น
  • เช็ดด้วยผ้าสะอาด

2. ท่าครีมบำรุงผิวหน้าที่กันแดดได้
  • ทั้งหน้าและลำคอ หูด้วย

3. หลีกเลี่ยงการโดนแดดโดยตรง
  • หมวก 
  • เสื้อคลุมที่มีหมวก

4. ดื่มน้ำเยอะๆ 
  • แปดแก้วอย่างต่ำ 

5. พักผ่อนให้เพียงพอ แปดชั่วโมง
  • ห้ามนอนคว่ำ
  • ห้ามคลุมโปง
  • ซักผ้าปูที่นอน และ ปอกหมอน อาทิตย์ละสองครั้ง 

ความต่อเนื่องสำคัญมากน้อง

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556



คุณลักษณะของ PROJECT MANAGER



Project Manager หรือ ผู้จัดการโครงการ เรียกกันติดปากสั้นๆ ว่า PM เป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดในโครงการ กล่าวได้ว่า ความสำเร็จหรือล้มเหลวของโครงการขึ้นกับ PM เป็นส่วนใหญ่เลยทีเดียว




  1. เป็นผู้นำ : คุณสมบัติข้อนี้สำคัญที่สุด เพราะ PM ย่อมต้องเป็น ผู้นำ ในโครงการโดยตำแหน่งอยู่แล้ว ส่วนจะเป็นผู้นำแบบไหนถึงจะดีนั้น …. ผู้เขียนมีความเห็นว่าเรื่องนี้ไม่มีสูตรตายตัว และกลับคิดว่าที่จริงแล้ว PM ต้องเป็นผู้นำได้ทุกแบบ ตามสถานะการณ์ บางครั้งก็ต้องประชาธิปไตย ในบางคราวก็ต้องเผด็จการ บางทีก็ต้องแข็งราวผู้นำหน่วยทหารเลยทีเดียว แต่ที่แน่ๆ คือ จะต้องออกหน้าเสมอ กล้าตัดสินใจ พร้อมแสดงตัว พร้อมที่จะรับผิด รับชอบ ตลอดเวลา
  2. มีความรู้เรื่อง Project Management : องค์ความรู้ด้านการบริหารโครงการ มีความสำคัญมากต่อ PMช่วยให้เข้าใจลักษณะมาตรฐานทั่วไปของโครงการ เข้าใจขั้นตอน หลักการ และเครื่องมือต่าง ๆ ในการบริหารโครงการ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการบริหารธุรกิจ ยิ่งโครงการที่มีขนาดใหญ่ มีความซับซ้อน องค์ความรู้นี้ยิ่งมีความสำคัญ 
  3. วางแผนโครงการเป็น : มีความรู้แล้วว่า การบริหารโครงการ ต้องมีแผนอะไรบ้าง แต่ละแผนคืออะไร ทำอย่างไร … ก็ต้องทำแผนเป็นด้วย เพราะการวางแผนโครงการเป็นหนึ่งในหน้าที่หลักของ PM เนื่องจากโครงการมีหลายประเภท มีเงื่อนไข มีความซับซ้อน และขนาดที่แตกต่างกันไป PM จะต้องเข้าใจว่า แต่ละโครงการควรมีแผนอะไรบ้าง แผนอะไรเป็นแผนหลัก แผนอะไรไม่ต้องมีก็ได้ โดยส่วนตัวผู้เขียนมีความเห็นว่าอย่างน้อยที่สุด แผนระยะเวลาดำเนินการ (Schedule Plan) และ แผนการเงิน (Financial Plan) ต้องมีทุกโครงการ ส่วนแผนอื่นๆ เช่น แผนการสื่อสาร (Communication Plan) แผนจัดการความเสี่ยง (Risk Management Plan) แผนการจัดซื้อจัดหา (Procurement Plan) ฯลฯ จะมีหรือไม่ขึ้นกับความจำเป็นแต่ละโครงการ
  4. มีความยืดหยุ่นสูง : PM ต้องสามารถรับมือกับสถานะการณ์ที่หลากหลาย และการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างโครงการได้เป็นอย่างดี โครงการประเภท นิ่งๆ ขอบเขตงานคงที requirement ไม่เปลี่ยน เป็นไปตามแผนงานอย่างสมบูรณ์ มีอยู่ในความฝันเท่านั้น …. ในความเป็นจริง เราจะพบเงื่อนไขใหม่ๆ แปลกๆ อย่างนึกไม่ถึงอยู่เสมอ PM จึงต้องพร้อมที่จะรับรู้ เข้าใจ และรับมือได้กับทุกการเปลี่ยนแปลง
  5. เป็นนักเจรจาต่อรอง : PM อยู่ในฐานะคล้าย ๆ คนกลางที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภายใน ภายนอกองค์กร โดยปกติโครงการจะต้องมีบุคลากรตามเงื่อนไข ต้องใช้อุปกรณ์เครื่องมือพิเศษบางอย่าง และจะต้องมีงบประมาณเพียงพอ บ่อยครั้งสิ่งเหล่านี้ มาจากหน่วยงานอื่น ซึ่งมักจะสร้างเงื่อนไข หรือมีข้อจำกัดในการนำมาใช้ในโครงการ PM จึงต้องมีทักษะในการเจรจาต่อรองเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งจำเป็นต่อการดำเนินโครงการ หรือในกรณีของลูกค้า ที่มักจะเพิ่มหรือเปลี่ยนขอบเขตงาน PM ก็จะต้องมีความสามารถที่จะต่อรองเพื่อไม่ให้กระทบต่อภาพรวมของโครงการ
  6. จัดลำดับความสำคัญเป็น : การเป็น PM มีความเป็นไปได้ว่า จะต้องรับมือกับหลายเรื่องในเวลาเดียวกัน ยิ่งทำหลาย ๆ โครงการในช่วงเวลาเดียวกัน ก็จะยิ่งยุ่งเหยิงขึ้นเป็นธรรมดา PM จึงต้องรู้ตัวว่าควรจะรับมือเรื่องใดก่อนหลัง อย่างไร เพื่อให้งานลุล่วงตามแผน




http://arthitonline.me